‘เหลื่อมล้ำ-ผิดแผน-พรากจาก’ มนต์เสน่ห์อมตะนิรันดร์กาลของ ‘มนต์รักทรานซิสเตอร์’

‘เหลื่อมล้ำ-ผิดแผน-พรากจาก’ มนต์เสน่ห์อมตะนิรันดร์กาลของ ‘มนต์รักทรานซิสเตอร์’

.

ภาพยนตร์เรื่อง ‘มนต์รักทรานซิสเตอร์’ บทประพันธ์ของนักเขียนรางวัลศรีบูรพา ‘วัฒน์ วรรลยางกูร’ คือเรื่องราวความรักระหว่าง ‘ไอ้แผน’ กับ ‘สะเดา’ ชายหนุ่มและหญิงสาวบ้านนาที่พบรักกัน โดยมีฉากหลังเป็นทุ่งนาในชนบทห่างไกลความเจริญ อ่านมาจนถึงตรงนี้อาจจะทำให้ใครหลายคนรู้สึกว่านี่อาจเป็นเพียงบทละครน้ำเน่ากับการบรรยายชีวิตรักอันดาษดื่น หาชมได้ทั่วไปตามละครหลังข่าว หากแต่ความรักของแผนกับสะเดาไม่ได้หวานชื่นจนซึ้งใจอย่างที่ใครคิด ในทางกลับกัน ชีวิตรักของพวกเขามัน ‘ผิดแผน’ เสียจนพรากน้ำตาจากผู้ชมได้ในทุกยุคทุกสมัย

.

“ลมพัดต้นกล้า เดือนเมษาปีก่อน

พี่จำจากจร เมื่อตอนลมร้อนแผ่วมา

ทหารเกณฑ์คนยาก ต้องพรากจากลา

กอดน้องแก้วตา เจ้าอย่าร้องไห้”

.

คล้ายคลึงกันกับพล็อตละครไทยทั่วไป อุปสรรคนานัปการขัดขวางเส้นทางรักของแผนและสะเดา ทั้งฐานะที่ยากจนและว่าที่พ่อตาสุดโหดที่ไม่เห็นดีเห็นงามกับความรักนี้ แต่ด้วยความขยัน มุ่งมั่น รักจริงหวังแต่ง ทำให้แผนพิชิตใจแม่สาวเสื้อฟ้าอย่างสะเดาสำเร็จในที่สุด และแน่นอนว่าความรักแรกเริ่มของแผนกับสะเดานั้นแสนหวานจับใจจนอดไม่ได้ที่จะยิ้มเขิน ทั้งคู่รักกันหวานชื่นจนสะเดาตั้งท้องลูกให้แผน

.

ทว่าเจ้าชายกับเจ้าหญิงคู่นี้มิได้ครองรักกันอย่างมีความสุขตลอดกาลแบบในนวนิยายเรื่องอื่น

.

ราวกับความรักนั้นเป็นสิ่งต้องคำสาป ทันทีที่แผนได้รับข่าวดีว่ากำลังจะได้เป็นพ่อคน เขาก็จำต้องพรากจากลูกเมียไปไกล เพราะจับได้ ‘ใบแดง’ ทหารเกณฑ์ป้ายแดงจึงต้องเดินทางระหกระเหินไปฝึกทหารนานนับปี ความรัก ความฝัน และความหวังของแผนกับสะเดาก็พังครืนลงในชั่วพริบตา แม้แผนจะให้คำมั่นกับสะเดาว่าจะรีบกลับมาหา แต่ฉากรักอันสมปรารถนาของแผนและสะเดาก็จบลงแต่เพียงเท่านั้น 

.

“เห็นน้ำตาน้อง ใจพี่หมองหม่น

สงสารหน้ามน คนจนคงเหงาเศร้าใจ

แต่นี้ไปใครเล่า ช่วยเจ้าหว่านไถ

ห่วงน้องคนไกล ไม่อยากจากลา”

.

วันเปลี่ยน คืนผ่าน กาลเวลาหมุนไป ความคิดคำนึงของทหารเกณฑ์ไกลบ้านอย่างแผนยิ่งเพิ่มทวี ความทรมาน ความคิดถึง และความห่วงหาถูกระบายออกมาผ่านบทเพลง ‘ทหารเกณฑ์คนเศร้า’ ที่แผนแต่งขึ้นและนำมาร้องในงานประกวดร้องเพลง ความรู้สึกอัดอั้นและเจ็บปวดจนจับใจสะกดให้ผู้ชมเศร้าโศกไปตาม ๆ กัน และถือเป็นเวทีที่ทำให้แผนได้ฉายแววการเป็นนักร้อง หนึ่งในความฝันที่ใจของแผนร่ำร้องตลอดมา

.

จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิตแผนเกิดขึ้นหลังจากจบงานประกวดร้องเพลง เมื่อแผนตัดสินใจหนีออกมาจากค่ายทหาร และเดินทางเข้าเมืองหลวงไปไล่ตามความฝันการเป็นนักร้องในวงดนตรี แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ความฝันของแผนถึงได้ ‘ผิดแผน’ ไปในทุกจังหวะของชีวิต เพราะนอกจากเส้นทางการเป็นนักร้องดังของแผนจะไม่ได้ง่ายดายอย่างที่วาดฝันไว้แล้ว เขายังต้องใช้ชีวิตคนเดียวอย่างยากลำบากในเมืองใหญ่ ทั้งยังไร้ญาติขาดมิตร ครั้นจะหนีกลับบ้านไปหาลูกเมียที่จากมาก็ไม่อาจทำได้ เพราะมีความผิดติดตัวฐานหนีทหารเป็นดั่งชนักติดหลัง ซ้ำร้ายชีวิตยิ่งจนตรอกจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนยิ่งกว่าเก่า

.

ในขณะที่กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปหลายปี สะเดายังคงรอคอยให้สามีผู้เป็นที่รักกลับบ้านมาตามคำสัญญาที่ให้ไว้ ทว่านับวันหัวใจดวงน้อยยิ่งห่อเหี่ยว ทั้งต้องโดดเดี่ยวเลี้ยงลูกเล็กและทำไร่ไถนาด้วยตัวคนเดียว แม้จะเคยดั้นด้นไปตามหาแผนถึงกรุงเทพฯ ท้ายที่สุดเธอก็พานพบแต่เพียงความผิดหวัง ครั้นจะเดินหน้าต่อไปกับชีวิตด้วยการเริ่มต้นรักใหม่กับชายหนุ่มคนใหม่ที่มาตามมอบความรักให้ ผลสุดท้ายกลับกลายเป็นเธอถูกทอดทิ้งให้อยู่ลำพังอีกหน กับลูกในท้องอีกหนึ่งคนที่ชายคนนั้นไม่แม้แต่จะแยแส

“จำ พี่จำได้มั่น เมื่อวันสงกรานต์ปีกลาย

พี่สวมเสื้อลาย ส่วนแม่หวานใจเจ้าใส่เสื้อฟ้า

ได้กลิ่นแก้มนวล อบอวลน้ำปรุงฟุ้งมา

พี่ให้สัญญา จะกลับมาปีหน้าสงกรานต์”

.

ฉากจบของภาพยนตร์รักเรื่องนี้ทั้งบีบคั้นหัวใจผู้ชม  และเผยให้เห็นว่าแท้จริงแล้วชีวิตของหนุ่มสาวหลายคนในชนบท อย่างน้อยที่สุดก็ชีวิตของแผนกับสะเดา ไม่ใช่ชีวิตที่เรียบง่ายและสวยหรูแบบภาพจำที่เราถูกพร่ำสอนมา พวกเขาไม่มีความหวัง ไม่มีความฝัน และไม่มีแม้กระทั่งความสุข 

.

พวกเขาไม่มีมื้อที่สุขที่สุด เพราะแม้แต่เงินจะซื้อข้าวกินสักมื้อก็ยังไม่มี

ไม่มีชีวิตที่อยู่ได้ด้วยความพอเพียง เพราะแม้จะทำงานหนักสักแค่ไหนก็ไม่เคยเพียงพอ

.

ทั้งการบังคับเกณฑ์ทหารที่ทำให้ชายหนุ่มชนชั้นรากหญ้าเสียทั้งโอกาสและความฝัน การดิ้นรนเอาตัวรอดในเมืองใหญ่ที่ไม่เคยกระจายโอกาสให้คนตัวเล็ก ๆ ได้ลืมตาอ้าปาก ความเหลื่อมล้ำทางสังคม โครงสร้างที่กดทับคนจน ปัญหาความยากจนที่นับวันยิ่งรุนแรง และมายาคติที่ถูกผลิตซ้ำในสังคมไทยอันแสนบิดเบี้ยว ล้วนสะท้อนออกมาผ่าน ‘มนต์รักทรานซิสเตอร์’ ภาพยนตร์ที่ฉายครั้งแรกในปี 2544 ทว่ายังคงร่วมสมัยเสมอมาแม้เวลาจะผ่านมาแล้วกว่าสองทศวรรษ

.

เรื่องราวของแผนยังทำลายกรอบวาทกรรมที่คนมีต่อสังคมเมือง สังคมชนบท และความยากจนแร้นแค้น เส้นทางชีวิตอันน่าสะเทือนใจของแผนและสะเดาสะท้อนค่านิยมของสื่อที่มักจะผลิตซ้ำภาพชีวิตของคนในชนบทว่าเป็นชีวิตที่สมถะเรียบง่าย ก่อนที่แผนจะค่อย ๆ พาเราเดินทางไปจนรู้ว่าแท้จริงแล้วสังคมนี้ช่างโหดร้าย และพร้อมจะบดขยี้ความหวังและความฝันของคนตัวเล็กตัวน้อยอยู่เสมอ ความเหลื่อมล้ำและโครงสร้างทางสังคมนี้ไม่เคยโอนอ่อนต่อเรา ทั้งยังไม่เคยยอมให้เราได้มีทางเลือกในเส้นทางชีวิตของตัวเองเลยสักครั้ง

.

ตราบใดที่สังคมไทยยังคงบิดเบี้ยวอยู่เช่นนี้ ชีวิตอันแสนรันทดของหนุ่มสาวอย่างแผนและสะเดาก็คงจะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เช่นเดียวกับภาพยนตร์ ‘มนต์รักทรานซิสเตอร์’ ที่ต่อให้จะนำมาวนฉายซ้ำอีกกี่หน เราก็ยังคงต้องหลั่งน้ำตาให้กับ ‘ความจริง’ ที่สะท้อนออกมาผ่าน ‘เรื่องแต่ง’ เรื่องนี้อยู่เสมอ

.

“ข้างแรม 15 เดือนเมษาปีใหม่

พี่อยู่เดียวดาย คิดถึงขวัญใจไกลบ้าน

ทหารเกณฑ์คนเศร้า ห่วงเจ้านงคราญ

ผ่านพ้นสงกรานต์ ไม่ได้กลับไป…”

.

เนื้อหา : ภัคจิรา มาตาพิทักษ์

พิสูจน์อักษร : สรัลชนา หันหาบุญ และ พิมทอง ธนาวุฒิกุล

ภาพ : พศรินทร์ ตรีไพชยนต์ศักดิ์