The Red Night ในคืนราตรีสีชาด


“พยากรณ์อากาศภาคค่ำวันนี้ คาดว่าลมมรสุมจะพัดผ่านในบริเวณตอนกลางของประเทศ อาจมีพายุและฝนตกหนักในบางพื้นที่ไปจนถึงช่วงปลายเดือน ขอให้ประชาชนเลี่ยงการออกจากบ้านในเวลากลางคืน ต่อไปจะเป็นข่าวคนหาย...”

           อืม แบบนี้ก็แย่สิ ถ้าฝนตกหนักแล้วจะออกจากบ้านได้ไหมล่ะเนี่ย

           ซอลคิดพลางซดต้มเลือดหมูเจ้าประจำจนหมด เขาใช้ชีวิตเป็นจิตรกรมาประมาณ 2 ปี หนทางแห่งการเป็นศิลปินช่างยากลำบากเมื่อความคิดสร้างสรรค์สวนทางกับรายรับ ยิ่งในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ การจะขายภาพสักภาพได้ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์ โชคดีที่มีชาวต่างชาติติดต่อขอให้เขาวาดภาพไปจัดแสดงที่นิทรรศการศิลปะ ค่าจ้างที่ได้รับมาล่วงหน้าพอจะต่อชีวิตของเขาไปได้อีกสักระยะหนึ่ง

           เขากลับมายังห้องทำงานประจำ ข้าวของระเกะระกะเต็มไปหมด ทั้งพู่กันเปื้อนสี จานสีที่ยังไม่ได้ล้าง ภาพจำลอง ‘ราตรีประดับดาว’ ผลงานของวินเซนต์ แวน โก๊ะ ถูกวางอิงผนัง หนังสือทั้งปกแข็งปกอ่อน เขาสัตว์ เทียนไข ต่างถูกวางทิ้งไว้ในแต่ละมุมของห้องเขาไม่สนใจจะจัดข้าวของเหล่านั้นให้เรียบร้อยเท่าไหร่นัก เวลาของเขามีค่าเกินกว่าจะมาสนใจเรื่องหยุมหยิม

           เบื้องหน้าของเขาตอนนี้คือภาพของหญิงสาวคนหนึ่งในชุดราตรี มันเกือบจะสมบูรณ์แบบ หากแต่ใบหน้าของเธอกลับถูกเว้นไว้ เช่นเดียวกับชุดราตรีที่ยังไม่ได้ลงสี เขาตั้งใจให้ชุดของเธอเป็นสีแดง แต่สีแดงเจ้ากรรมที่เขามีกลับดูไม่สดอย่างที่เขาอยากให้เป็น ทำให้เขาต้องลำบากไปตามหาอีกหน

           ต้องใช้สีแดงที่สดกว่านี้ ภาพถึงจะสมบูรณ์แบบ ยังพอมีเวลาก่อนจะถึงกำหนดการจัดแสดง 

           เขาพึมพำกับตัวเอง ตอนนี้เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว นัดของเขากับนางแบบคือในอีกหนึ่งชั่วโมง เธอชื่อว่าไอรีน มีใบหน้ารูปไข่ นัยน์ตาเป็นประกายราวดวงดาวในยามค่ำคืน ปากเป็นกระจับ ผมสีดำขลับ เหมาะสำหรับภาพวาดของเขาอย่างยิ่ง ซอลพบเธอในแอพหาคู่เมื่อหลายเดือนก่อน ทั้งคู่คุยกันถูกคอจึงตัดสินใจที่จะนัดเจอกันในที่สุด เมื่อยิ่งเจอกันก็ยิ่งคุยกันถูกคอ เขาจึงเสนอให้เธอมาลองเป็นนางแบบให้ภาพของเขา แน่นอนว่าเธอตอบตกลง แต่สถานที่เธอขอเป็นฝ่ายเลือก จนได้ข้อสรุปเป็นที่บ้านของเธอ แม้มันจะดูเร่งรัดไปหน่อยที่จะไปบ้านของคนที่พึ่งคุยกันไม่กี่เดือน แต่ซอลก็ไม่คัดค้าน เธอบอกว่าบางทีการเปิดใจให้คนอื่นก็ไม่มีกำหนดเวลา เขารีบเก็บของจำเป็นลงกระเป๋า หากปล่อยให้อีกฝ่ายรอนานมันคงดูไม่ดี

ตำแหน่งที่เธอส่งมาอยู่ไม่ห่างจากบ้านของเขามากนัก ใช้เวลาไม่นานก็ถึงที่หมาย มันเป็นบ้าน ไม่สิ มันเหมือนคฤหาสน์มากกว่า กริ่งหน้าบ้านเป็นรูปสิงโต เขาลังเลว่าจะกดดีไหม แต่ยังไม่ทันทำอะไร ประตูบ้านก็ถูกเปิดออก เป็นไอรีนนั่นเองที่ออกมาต้อนรับ

           “อ้าว! คุณซอล มานานรึยังคะเนี่ย”

           “เอ่อ...พึ่งมาถึงเอง งั้นขอเข้าไปนะครับ” เขาประหม่าเล็กน้อย แม้จะเจอกันมาหลายครั้ง แต่ตัวจริงของเธอยังทำให้เขาใจสั่นได้เสมอ

           “เชิญเลยค่ะ ทำตัวตามสบายนะคะ”

           เขารีบจัดแจงอุปกรณ์ให้เรียบร้อยหลังจากเข้ามา เธอเตรียมห้องรับรองไว้สำหรับเขา ไอรีนจะนั่งเป็นนางแบบให้กลางห้อง เมื่อทุกอย่างเข้าที่ ซอลจึงเริ่มลงมือวาดภาพต่อทันที

           ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง

“เอาล่ะ เสร็จแล้วครับ” เขาหันภาพไปให้เธอดู ใบหน้าของหญิงในภาพนั้นเหมือนไอรีนไม่มีผิดเพี้ยน

           “ว้าว! นี่มันเหมือนฉันมากเลยนะเนี่ย” เธอพูดอย่างตื่นเต้น ฝีมือของซอลดีเกินกว่าที่เธอจินตนาการไว้มาก

           “เอ แล้วทำไมชุดของเธอถึงไม่ลงสีเหรอ” ไอรีนถามซอลที่ตอนนี้กำลังยิ้ม ดีใจที่ผลงานนี้เสร็จทันเวลา

           “อ๋อ พอดีมีปัญหาเรื่องสีนิดหน่อยน่ะครับ เลยยังไม่ได้ลงสักที”

           “ถ้าลงสีแล้วมันต้องสวยกว่านี้มากแน่ๆ เลยค่ะ” ซอลอมยิ้ม นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่มีคนชมภาพของเขา ครั้งล่าสุดที่จำได้นั่นมันก็นานมาก นานจนเกือบจะลืมไปแล้วว่าเขาเคยภูมิใจกับฝีมือตัวเองแค่ไหน

           “ว่าแต่ที่นี่มีห้องเก็บของรึเปล่า ผมจะลองผสมสีดูสักหน่อย ไม่อยากให้มันเลอะบ้านคุณมากน่ะ”

           “มีห้องนึงไม่ค่อยได้ใช้นะ คุณเข้าไปได้เลย” เธอพูดพลางชี้ไปที่ห้องเก็บของตรงชั้นสอง

           แผ่นหลังของซอลลับตาเธอไป เธอตัดสินใจเดินไปยังห้องครัวเพื่อเอาน้ำออกมาให้ก่อนซอลจะกลับมา แต่แล้วหางตาเธอก็คล้ายว่าจะเห็นเงาดำประหลาดพาดผ่านหน้าเธอไป กลิ่นกำยานฟุ้งมาจากที่ไหนสักแห่งทำให้เธอต้องชะงักกลางคัน สติของเธอเริ่มหลุดลอย

           แล้วภาพของเธอก็มืดลง

           ไอรีนตื่นขึ้นจากภวังค์ ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ซอลเองก็ไม่อยู่ที่ห้องรับรอง เขาจะมีปัญหาอะไรรึเปล่า เธอพยายามตั้งสติให้ลุกขึ้น พลางพยุงตัวเองไปยังบันได ตั้งใจจะขึ้นไปยังห้องนั้นเพื่อตามหาเขา ระหว่างที่ขึ้นบันได บรรยากาศรอบตัวก็ดูเปลี่ยนไป ราวกับว่านี่ไม่ใช่บ้านของเธอ ยิ่งใกล้ถึงชั้นบนมากขึ้นเท่าไหร่ เธอยิ่งรู้สึกคลื่นไส้และเวียนหัวมากขึ้นเท่านั้น ก่อนจะหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องเก็บของ

           ความสงสัยในเบื้องหลังประตูนั้นดึงดูดให้เธอเปิดประตูเข้าไป แอ๊ด...เอี๊ยด...เสียงประตูเก่าๆ กระทบโสตประสาท เธอสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ไม่น่าพิสมัย ท้องไส้ของเธอเริ่มปั่นป่วน กลิ่นของความชื้นกระตุ้นให้เธอตื่นตัว รูม่านตาของเธอขยาย ลมหายใจเริ่มถี่ขึ้น ภาพที่เห็นคือสิ่งที่มีลักษณะคล้ายวงเวทรูปหกเหลี่ยม เทียนไขที่มีร่องรอยการใช้งาน อักขระแปลกตาที่เธอไม่เคยเห็นถูกเขียนไว้กับพื้น หัวกะโหลกแพะบริเวณกลางห้องยิ่งทำให้เธอไม่กล้าเดินเข้าไปต่อ เกิดอะไรขึ้นในห้องนี้ แล้วซอลล่ะอยู่ที่ไหน

           เธอมัวตะลึงกับภาพตรงหน้า จนไม่ทันรู้สึกถึงนัยน์ตาสีโลหิตที่กำลังจับจ้อง เขี้ยวโค้งวาวบนใบหน้าเปื้อนยิ้ม ซอลค่อยๆ ก้าวเท้าไปหาเธอช้าๆ จากด้านหลังอย่างเงียบที่สุด สงัดที่สุด เหยื่อของเขาจะไม่มีวันรู้ตัวว่ากำลังจะพบเจอกับอะไร...

           รอยคมเขี้ยวปรากฏบนลำคอของไอรีน ร่างของเธอแน่นิ่ง เฉกเช่นเดียวกับลมหายใจ นัยน์ตาไม่เหลือความเปล่งประกายอีกต่อไป ขณะเดียวกัน ภาพของหญิงสาวในชุดราตรีก็เสร็จสมบูรณ์ ชุดของเธอถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงสด อย่างที่เขาอยากให้มันเป็น...



เนื้อหา : ภาพเขียน

พิสูจน์อักษร : กรณิศ และ ธยาน์

ภาพ : คืนวันวาน